"“อานนท์ ! ความคิดอาจมีแก่พวกเธออย่างนี้ว่า ธรรมวินัยของพวกเรามีพระศาสดาล่วงลับไปแล้ว พวกเราไม่มีพระศาสดา ดังนี้ อานนท์ ! พวกเธออย่าคิดอย่างนั้น. อานนท์ ! ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้ว แก่พวกเธอทั้งหลาย ธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอทั้งหลาย โดยกาลล่วงไปแห่งเรา.”"
วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554
ความฉิบหายของผู้หลงสักการะ
ภิกษุ ท. ! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ด
หยาบคาย ต่อการบรรลุพระนิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรม
อื่นยิ่งกว่า.
ภิกษุ ท. ! พระเทวทัตถูกลาภสักการะและเสียงเยินยอครอบงำเอาแล้ว
มีจิตติดแน่นอยู่ในสิ่งนั้น ๆ, จึงทำลายสงฆ์.
ภิกษุ ท. ! เมื่อพระเทวทัตถูกลาภสักการะและเสียงเยินยอครอบงำเอา
แล้ว มีจิตติดแน่นอยู่ในสิ่งนั้น ๆ, รากเหง้าแห่งธรรมอันเป็นกุศลของเธอจึง
ถึงความขาดสูญ.
ภิกษุ ท. ! เมื่อพระเทวทัตถูกลาภสักการะและเสียงเยินยอครอบงำเอา
แล้ว มีจิตติดแน่นอยู่ในสิ่งนั้น ๆ, ธรรมอันเป็นตัวกุศลของเธอ จึงถึงความ
ขาดสูญ.
ภิกษุ ท. ! เมื่อพระเทวทัตถูกลาภสักการะและเสียงเยินยอครอบงำเอา
แล้ว มีจิตติดแน่นอยู่ในสิ่งนั้น ๆ, ธรรมอันขาวสะอาดของเธอ จึงถึงความขาด
สูญ.
ภิกษุ ท. ! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ด
หยาบคาย ต่อการบรรลุพระนิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรม
อื่นยิ่งกว่า ด้วยอาการอย่างนี้. เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลายพึง
สำเหนียกใจไว้ดังนี้ว่า “เราทั้งหลาย จักไม่เยื่อใยในลาภสักการะและเสียงเยินยอ
ที่เกิดขึ้น. อนึ่ง ลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้นแล้ว ต้องไม่มาห่อหุ้มอยู่
ที่จิตของเรา”. ภิกษุ ท. ! พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้อย่างนี้ แล.
๑. บาลี พระพุทธภาษิต นิทาน. สํ. ๑๖/๒๘๒/๕๘๒-๕๘๕.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น