"“อานนท์ ! ความคิดอาจมีแก่พวกเธออย่างนี้ว่า ธรรมวินัยของพวกเรามีพระศาสดาล่วงลับไปแล้ว พวกเราไม่มีพระศาสดา ดังนี้ อานนท์ ! พวกเธออย่าคิดอย่างนั้น. อานนท์ ! ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้ว แก่พวกเธอทั้งหลาย ธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอทั้งหลาย โดยกาลล่วงไปแห่งเรา.”"
วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554
ลูกสุนัขดุถูกขยี้ด้วยดีสัตว์
ภิกษุ ท. ! พวกเธอทั้งหลาย อย่านึกกระหยิ่มต่อลาภสักการะและเสียง
เยินยอ ที่เกิดแก่พระเทวทัตเลย. ตลอดเวลา ที่พระเจ้าอชาตสัตตุกุมารยังไป
บำรุงพระเทวทัตด้วยรถ ๕๐๐ คัน ทั้งเช้าทั้งเย็น, และอาหารที่นำไปมีจำนวนถึง
๕๐๐ สำรับ๑ อยู่เพียงใด ; ตลอดเวลาเพียงนั้น, พระเทวทัตหวังได้แต่ความ
เสื่อมในกุศลธรรมทั้งหลาย อย่างเดียว, หวังความเจริญไม่ได้.
ภิกษุ ท. ! ใครขยี้ดีสัตว์เข้าที่จมูกของลูกสุนัขตัวดุร้าย, ลูกสุนัข
ตัวนั้นก็จะกลับดุยิ่งกว่าเดิม ด้วยการกระทำอย่างนี้. ข้อนี้ฉันใด ;
ภิกษุ ท. !
ตลอดเวลาที่พระเจ้าอชาตสัตตุกุมารยังไปบำรุงพระเทวทัต ด้วยรถ ๕๐๐ คัน
ทั้งเช้าทั้งเย็น, และอาหารที่นำไปมีจำนวนถึง ๕๐๐ สำรับ อยู่เพียงใด ; ตลอด
เวลาเพียงนั้น, พระเทวทัตหวังได้แต่ความเสื่อมในกุศลธรรมทั้งหลาย อย่างเดียว,
หวังความเจริญไม่ได้, ฉันนั้น.
ภิกษุ ท. ! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ด
หยาบคาย ต่อการบรรลุพระนิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มี
ธรรมอื่นยิ่งกว่า ด้วยอาการอย่างนี้. เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอ
ทั้งหลายพึงสำเหนียกใจไว้ดังนี้ว่า “เราทั้งหลาย จักไม่เยื่อใยในลาภสักการะ
และเสียงเยินยอที่เกิดขึ้น. อนึ่ง ลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้นแล้ว ต้อง
ไม่มาห่อหุ้มอยู่ที่จิตของเรา”. ภิกษุ ท. ! พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้
อย่างนี้แล.
ที่มา:หนังสือขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ หน้า ๖๔
บาลี พระพุทธภาษิต นิทาน. สํ. ๑๖/๒๘๔/๕๙๓, ๕๙๔.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น