ภิกษุ ท. ! บุคคล ๓ จำพวกนี้มีอยู่ หาได้อยู่
ในโลก. สามจำพวกอย่างไรเล่า ? สามจำพวกคือ :-
- คนตาบอด (อนฺโธ),
- คนมีตาข้างเดียว (เอกจกฺขุ),
- คนมีตาสองข้าง (ทฺวิจกฺขุ).
ภิกษุ ท. ! คนตาบอดเป็นอย่างไรเล่า ?
คือคนบางคนในโลกนี้ไม่มีตาที่เป็นเหตุให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้
หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น นี้อย่างหนึ่ง;
และไม่มีตาที่เป็นเหตุให้รู้ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล
- ธรรมมีโทษและไม่มีโทษ
- ธรรมเลวและธรรมประณีต
- ธรรมฝ่ายดำและธรรมฝ่ายขาว นี้อีกอย่างหนึ่ง.
ภิกษุ ท. ! นี้แล คนตาบอด (ทั้งสองข้าง).
ภิกษุ ท. ! มีคนมีตาข้างเดียวเป็นอย่างไรเล่า ?
คือคนบางคนในโลกนี้ มีตาที่เป็นเหตุให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น นี้อย่างหนึ่ง;
แต่ไม่มีตาที่เป็นเหตุให้รู้ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล
- ธรรมมีโทษและไม่มีโทษ
- ธรรมเลวและธรรมประณีต
- ธรรมฝ่ายดำและธรรมฝ่ายขาว นี้อีกอย่างหนึ่ง.
ภิกษุ ท. ! นี้แล คนมีตาข้างเดียว.
ภิกษุ ท. ! คนมีตาสองข้างเป็นอย่างไรเล่า ?
คือคนบางคนในโลกนี้มีตาที่เป็นเหตุให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้
หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น นี้อย่างหนึ่ง;
และมีตาที่เป็นเหตุให้รู้ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล
- ธรรมมีโทษและไม่มีโทษ
- ธรรมเลวและธรรมประณีต
- ธรรมฝ่ายดำและธรรมฝ่ายขาว นี้อีกอย่างหนึ่ง.
ภิกษุ ท. ! นี้แล คนมีตาสองข้าง.
ภิกษุ ท. ! ภิกษุมีตาสมบูรณ์ (จกฺขุมา) เป็นอย่างไรเล่า ?
คือภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า“นี้ความทุกข์, นี้เหตุให้เกิดแห่งทุกข์, นี้ความดับไม่เหลือ
แห่งทุกข์, นี้ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์”
ดังนี้.
ภิกษุ ท. ! นี้แล ภิกษุมีตาสมบูรณ์.
ติก. อ°. ๒๐/๑๖๒,๑๔๗/๔๖๘,๔๕๙.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น