วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การถวายทานที่ได้อานิสงฆ์มาก


สังฆทานดีกว่า !
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ทานประจำสกุลวงศ์ ข้าพระองค์
ยังให้อยู่ แต่ว่าทานนั้นข้าพระองค์ให้เฉพาะหมู่ภิกษุผู้เป็นอรหันต์
หรือผู้ปฏิบัติอรหัตตมรรค ที่อยู่ป่า ที่ถือบิณฑบาต ที่ถือผ้าสุกุล
เป็นวัตร

คหบดี ! ข้อที่จะรู้ว่าคนเหล่านี้เป็นพระ
อรหันต์หรือปฏิบัติอรหัตตมรรคนั้น เป็นสิ่งที่รู้ได้ยาก
สำหรับท่านผู้เป็นคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม ผู้ยังมีการนอน
เบียดบุตร บริโภคใช้สอยกระแจะจันทน์และผ้าจาก
เมืองกาสี ทัดทรงมาลาและเครื่องกลิ่นและเครื่องผัดทา
ยินดีอยู่ด้วยทองและเงิน.


คหบดี ! ถึงแม้ภิกษุจะเป็น ผู้อยู่ป่าเป็นวัตร
ถ้าเป็น ผู้ฟุ้งซ่าน ถือตัว กลับกลอกพูดมาก มีวาจาไม่
แน่นอน มีสติลืมหลง ปราศจากสัมปชัญญะ ไม่มีสมาธิ
มีจิตหมุนไปผิด มีอินทรีย์อันปล่อยแล้ว : ด้วยอาการ
อย่างนี้ ภิกษุนั้น ควรถูกติเตียนด้วยองค์นั้น .

คหบดี ! ถึงแม้ภิกษุจะเป็น ผู้อยู่ป่าเป็นวัตร
ถ้าเป็น ผู้ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ถือตัว ไม่กลับกลอก ไม่พูดมาก
มีวาจาแน่นอน มีสติตั้งมั่น มีสัมปชัญญะ มีสมาธิ
มีเอกัคคตาจิต สำรวมอินทรีย์ : ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุนั้น
อันใคร ๆ ควรสรรเสริญด้วยองค์นั้น .

คหบดี ! ถึงแม้ภิกษุจะเป็น ผู้อยู่ใกล้บ้าน ก็ดี
.... บิณฑบาตเป็นวัตร ก็ดี... ฉันในที่นิมนต์ ก็ดี... ถือผ้า
บังสุกุลเป็นวัตร ก็ดี... นุ่งห่มคหบดีจีวร ก็ดี ถ้าเป็นผู้
ฟุ้งซ่าน ถือตัว กลับกลอก พูดมาก มีวาจาไม่แน่นอน มีสติ
ลืมหลง ปราศจากสัมปชัญญะ ไม่มีสมาธิ มีจิตหมุนไป
ผิด มีอินทรีย์อันปล่อยแล้ว : ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุนั้น
ควรถูกติเตียนด้วยองค์นั้น .

คหบดี ! ถึงแม้ภิกษุจะเป็น ผู้อยู่ใกล้บ้าน ก็ดี
.... บิณฑบาตเป็นวัตร ก็ดี... ฉันในที่นิมนต์ ก็ดี... ถือผ้า
บังสกุลเป็นวัตร ก็ดี... นุ่งห่มคหบดีจีวร ก็ดี ถ้าเป็นผู้
ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ถือตัว ไม่กลับกลอก ไม่พูดมาก มีวาจา
แน่นอน มีสติตั้งมั่น มีสัมปชัญญะ มีสมาธิ มีเอกัคคตาจิต
สำรวมอินทรีย์ : ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุนั้นอันใคร ๆ
ควรสรรเสริญด้วยองค์นั้น .

เอาละ คหบดี ! ท่านจงถวายทานในสงฆ์เถิด
เมื่อท่านถวายทานในสงฆ์อยู่, จิตจักเลื่อมใส; ท่านเป็นผู้มี
จิตอันเลื่อมใสแล้ว ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลาย
แห่งกาย จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์.

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! จำเดิมแต่วันนี้ไป ข้าพระองค์
จะถวายทานในสงฆ์

ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๓๖ - ๔๓๘/๓๓๐.

ท้ายจาก Blogger 
สังฆทานในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง กระป๋องสีเหลืองๆ ที่ขายตามหน้าวัดอย่างที่ คนปัจจุบันเข้าใจ แต่คือการถวายทานใดๆ อาหาร เครื่องใช้ กับคณะสงฆ์ "ผู้ปฏิบัติตามคำสอนพระศาสดา สัมมาสัมพุทธเจ้า"

2 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  2. "ทาน" เป็นการปฏิบัติเพื่อให้มนุษย์รู้จักการละ"อุปาทาน" คือความยึดมั่นถือมั่นในทรัพย์สินเงินทอง และสิ่งของที่ตนหามาได้ เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็น"อนัตตา"คือ "ไม่ใช่ของเราแท้จริง" เพราะเมื่อถึงวันที่มนุษย์"กายแตก" ย่อมไม่มีมนุษย์คนใดนำมันติดตัวไปได้เลย ดังนั้นพระพุทธเจ้า จึงทรงสั่งสอนให้มนุษย์รู้จักการให้การเสียสละ ด้วยจิตที่อยากให้ ด้วยจิตที่มีเมตตา,กรุณา และมุทิตาคือยินดีที่เห็นผู้อื่นเป็นสุข
    ดังนั้นเมื่อวางจิตในการทำ"ทาน"ได้ดังนี้แล้ว ย่อมจะเกิด"ผลใหญ่"แก่ตนเอง และยังให้เกิด"อานิสงฆ์ใหญ่"แก่พระพุทธศาสนาให้สืบเนื่องต่อไป

    ตอบลบ