วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

ภัยที่แม่ลูกก็ช่วยกันไม่ได้

ภัยที่แม่ลูกก็ช่วยกันไม่ได้


ภิกษุ ท. ! ปุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ย่อมกล่าวภัย
ที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้ (อมาตาปุตฺติกภย) ว่ามีอยู่
๓ อย่าง. ๓ อย่างคือ :-
มีสมัยที่ไฟไหม้ใหญ่ตั้งขึ้น ไหม้หมู่บ้าน ไหม้นิคม
ไหม้นคร. ในสมัยนั้น มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้),
บุตรก็ไม่ได้มารดา (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้).

ภิกษุ ท. ! ปุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ย่อมเรียกภัยนี้
ว่าเป็นอมาตาปุตติกภัย อย่างที่หนึ่ง.

ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก คือมีสมัยที่มหาเมฆ
ตั้งขึ้น เกิดน้ำท่วมใหญ่ พัดพาไปทั้งหมู่บ้าน ทั้งนิคม ทั้งนคร.
ในสมัยนั้น มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้),
บุตรก็ไม่ได้มารดา (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้).

ภิกษุ ท. ! ปุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ย่อมเรียกภัยนี้
ว่าเป็นอมาตาปุตติกภัย อย่างที่สอง.

ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก คือมีสมัยที่มีภัย
คือการกำเริบ (กบฏ) มาจากป่า ประชาชนขึ้นยานมีล้อ
หนีกระจัดกระจายไป. เมื่อภัยอย่างนี้เกิดขึ้น สมัยนั้น
มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้), บุตรก็ไม่ได้มารดา
(เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้).

บทสวดระลึกถึงพระพุทธเจ้า



อิธะ ตะถาคะโต โลเก อุปปัชชะติ
ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้

อะระหัง
เป็นผู้ไกลจากกิเลส

สัมมาสัมพุทโธ
ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

วิชชาจะระณะสัมปันโน
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ

สุคะโต
เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี

โลกะวิทู
เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง

อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
เป็นผู้สามารถฝึกคนที่ควรฝึก อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า

สัตถา เทวะมะนุสสานัง
เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พุทโธ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ด้วยธรรม

ภะคะวา
เป็นผู้มีความสามารถ จำแนกธรรม สั่งสอนสัจว์

โส อิมัง โลกัง
ตถาคตนนั้ ทำ ให้แจ้งซึ่งโลกนี้